เรามีบริการรับงานต่อเติมบ้าน ช่างโครงหลังคาเหล็ก ต่อเติมขยายร้านค้า ต่อเติมอาคารพาณิชย์ทุกประเภท บริการรับทำถนนทั้งในพื้นที่ส่วนบุคคลและถนนสาธารณะ หรืองานเทพื้นลานจอดรถลานกลางแจ้ง งานก่อสร้างครบวงจรในราคามิตรภาพ ดูแลลูกค้าตั้งแต่เริ่มงานจนส่งมอบงาน ด้วยวัสดุก่อสร้างที่มีคุณภาพและมีอายุการใช้งานยาวนาน
ช่างโครงหลังคาเหล็กกระบี่
ช่างทําโครงหลังคากระบี่
ช่างโครงเหล็กกระบี่
ช่างโครงหลังคากระบี่
ช่างทําโครง หลังคาเหล็กกระบี่
ช่างเหล็กโครงหลังคากระบี่
รับเหมาทําหลังคากระบี่
เหมาทําหลังคาเมทัลชีทกระบี่
รับเหมาโครงหลังคากระบี่
เหมาค่าแรงทําโครงหลังคาเหล็กกระบี่ติดต่อใช้บริการ
ต่อเติมบ้าน โครงหลังคา กันสาดหน้าบ้าน ต่อเติมห้องครัว ทำรั้วประตูสแตนเลส กระจกอลูมิเนียม รางน้ำฝน สร้างบ้าน รีโนเวทบ้าน บิ้วอิน ตกแต่ง
ผ้าม่าน ฉากกั้นห้อง




สิ่งที่ต้องคำนึงในการก่อสร้างบ้านในขั้นตอนการทำ โครงสร้างหลังคา โครงสร้างเหล็ก โดยการใช้เหล็กทั้งการใช้เหล็กตัวซีหรือการใช้เหล็กกล่อง คงมีหลายท่านที่กำลังหาข้อมูลหรืออยากรู้ขั้นตอนการติดตั้ง โครงสร้างหลังคา หรือโครงหลังคาเหล็ก ก่อนทำการมุงหลังคาบ้าน ว่าจะเริ่มติดตั้งอย่างไรหรือมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง แต่อันดับแรกคุณควรที่จะต้องรู้จักองค์ประกอบหรือส่วนประกอบต่างๆของโครงสร้างหลังคาเสียก่อน โครงหลังคาเมทัลชีท เพื่อความเข้าใจมากขึ้นในการสร้างบ้าน
เราจะมาทำความรู้จักกับส่วนประกอบของหลังคากันว่ามีอะไรกันบ้าง???
1. แป หรือระแนง คือ มีไว้เพื่อรองรับกระเบื้องหลังคาประเภทต่างๆ โดยมีการวางห่างกันตามขนาดของกระเบื้องที่ใช้ทำหลังคา และวางขนานกับแนวอกไก่ ใช้วัสดุเป็นเหล็กสี่เหลี่ยมจัตุรัส
2. อเส (Stud Beam) ส่วนของหลังคาที่พาดอยู่บนหัวเสา มีลักษณะคล้ายคาน ช่วยยึดและรัดหัวเสา รวมทั้งช่วยรับแรงจากโครงหลังคาที่ถ่ายลงสู่เสา โดยทั่วไปอเสมักจะวางอยู่บริเวณริมด้านนอกของเสา ใช้วัสดุเป็นเหล็กตัวซี
3.ดั้ง (King Post) ส่วนที่อยู่ในแนวสันหลังคาในแนวตั้ง ซึ่งตั้งอยู่บนขื่อ เพื่อรองรับอกไก่แทนเสาจริงของที่พักอาศัย โดยมีอกไก่วางพาดตามแนวสันหลังคาเป็นตัวยึด
4.จันทัน (Rafter) ถ้าหากเคยเห็นหลังคาบ้านส่วนใหญ่จะถูกจัดวางเป็นสามเหลี่ยม นั่นคือฐานของตัวจันทันที่เป็นส่วนเอียงลาดไปตามลักษณะของหลังคา โดยพาดอยู่บนอเส และอกไก่ เพื่อรองรับแปสำหรับรับกระเบื้องมุงหลังคา ซึ่งส่วนใหญ่จันทันจะวางเป็นระยะทุก 1 เมตร โดยจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักของวัสดุมุงหลังคา และระยะแปด้วย
5.ขื่อ (Tie Beam) ส่วนของโครงสร้างที่วางอยู่บนหัวเสา ในทิศทางเดียวกับจันทัน ทำหน้าที่รับแรงดึงและยึดหัวเสาในแนวคาน แล้วถ่ายน้ำหนักลงสู่เสา และช่วยยึดโครงผนัง หรือถูกเรียกอีกอย่างว่าสะพานรับดั้ง
6.ทับเชิงชาย หรือ ปั้นลม (Eaves) ส่วนที่ใช้ปิดหัวท้ายบริเวณริม โครงสร้างหลังคา จั่ว พาดอยู่บนหัวแป และด้านล่างของครอบข้างหลังคาช่วยกันลมไม่ให้ปะทะกับกระเบื้องหลังคาโดยตรง และช่วยกันน้ำฝนไม่ให้เข้าในบ้าน ส่วนใหญ่จะนิยมใช้ไม้จริง หรือไม้สังเคราะห์ รวมถึงช่วยกันนกเข้ามาทำรังด้วย
7.อกไก่ (Ridge) วัสดุที่เหมือนคานอยู่บริเวณส่วนกลางด้านบนของหลังคาทรงจั่วหรือทรงปั้นหยา ซึ่งจะวางพาดอยู่บนดั้งบริเวณสันหลังคา โดยช่วยทำหน้าที่รับน้ำหนักจันทันตามแนวสันหลังคา
8.เชิงชาย (Eaves) ไม้ที่ใช้ปิดปลายของจันทันทุกตัวที่ลาดเอียงตามแนวชายคามีไม้ปิดเป็นลอน ซ้อนทับเชิงชายและปิดช่องโค้งใต้แผ่นกระเบื้องมุงหลังคา และช่วยปรับแนวชายคาที่ยึด หัวจันทันให้เป็นแนวตรง สวยงาม รวมทั้งช่วยป้องกันการผุเปื่อยของไม้ที่ปลายจันทันอีกด้วย
1.สำหรับขั้นตอนแรกคือการติดตั้ง Plate หรือแผ่นเหล็กรองหัวเสา โดยการเชื่อมติดกับเหล็กแกนเสา แล้วเทคอนกรีตหล่อให้เต็มจนถึงเหล็ก Plate
2.วางเหล็กอะเสบนหัวเสา ต้องวางอะเสก่อนเพราะว่า เหล็กโครงหลังคาส่วนที่หล่อที่จะติดตั้งในลำดับถัดมา ก็จะติดตั้งอยู่บนอะเสทั้งหมด ซึ่งการวางเหล็กอะเสนั้นก็แล้วแต่การออกแบบ ว่าจะมีระดับความสูงเท่าไหร่ และใส่ตรงไหนบ้าง
3.เมื่อวางเหล็กอะเสเสร็จแล้ว ก็ตั้งดั้งขึ้นไปเลยครับ ลักษณะของดั้งก็คือ จะเป็นเหล็กตั้งอยู่เหมือนเสา(จะเป็นเหล็กตัวซีเดี่ยวหรือเหล็กซีประกบก็แล้วแต่การออกแบบ หรือการรับน้ำหนัก)
4.ติดตั้งอกไก่ บนดั้ง
5.เมื่อวางอกไก่เสร็จแล้วก็เริ่มวางตะเข้สันเลย วางให้หมดเลย ถ้ามีตะเข้รางก็ให้วางให้เสร็จเลย
7.ขั้นตอนนี้ก็ไล่วางจันทันเลยครับ ไล่ไปจนครบทั้งสี่ด้านของหลังคาบ้าน

การคมนาคม
1.โดยรถยนต์ส่วนตัว – จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดเพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร-ระนอง-พังงา-กระบี่ ระยะทาง 946 กิโลเมตร – จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ถึงจังหวัดชุมพร จากชุมพรใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอหลังสวน อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าอำเภอบ้านนาเดิมใช้ทางหลวงหมายเลข 44 ถึงอำเภออ่าวลึก แล้ววกเข้าทางหลวงหมายเลข 4 อีกครั้งหนึ่ง ถึงจังหวัดกระบี่ ระยะทาง 783 กิโลเมตร -จากภูเก็ตการเดินทางโดยรถยนต์จากภูเก็ต ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 402 และหมายเลข 4 ระยะทาง 176 กิโลเมตร
สามารถไปได้ 3 เส้นทาง คือ
เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 (ถ.เพชรเกษม) ผ่าน จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร จ.ระนอง จ.พังงา จนถึง จ.กระบี่ ระยะทาง 946 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 (ถ.เพชรเกษม) ถึง จ.ชุมพร แล้วต่อด้วยเส้นทางหลวงหมายเลข 41 ผ่าน อ.หลังสวน จ.ชุมพร เข้าสู่ อ.ไชยา อ.เวียงสระ จ.สุราษฏร์ธานี จากนั้นใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4035 ถึง อ.อ่าวลึก แล้ววกเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4 อีกครั้ง เข้าสู่ จ.กระบี่ ระยะทาง 814 กิโลเมตร
เส้นทางที่3 จากจังหวัดภูเก็ต ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 402 ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 4 ผ่าน ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง อ.ทับปุด จ.พังงา เข้าสู่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ระยะทาง 185 กิโลเมตร
2.รถโดยสารประจำทาง มีรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน บริษัท ลิกไนท์ ทัวร์ สายกรุงเทพฯ-กระบี่ ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11-12 ชั่วโมง
3.เส้นทางรถไฟ
จากสถานีรถไฟกรุงเทพ(หัวลำโพง) ลงได้ 3 สถานี คือ
1.สถานีรถไฟพุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี แล้วเดินทางต่อโดยรถยนต์โดยสาร ไปยัง จ.กระบี่ ระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร
2.ชุมทางทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช แล้วเดินทางต่อโดยรถยนต์โดยสาร ไปยัง จ.กระบี่ ระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร
3.สถานีรถไฟตรัง จ.ตรัง แล้วเดินทางต่อโดยรถยนต์โดยสาร ไปยัง จ.กระบี่ ระยะทางประมาณ 138 กิโลเมตร
4.โดยเครื่องบิน
ปัจจุบันมีสายการบินภายในประเทศ คือ การบินไทย แอร์เอเชีย บางกอกแอร์เวย์ ไทยแอร์เอเชีย นกแอร์ ไทยไลอ้อนแอร์
สถานที่ท่องเที่ยว